Home

Outbound Trip : Germany – Czech – Austria
Days Spend : 15 Days ( 9 Days in Germany, the rest is business trip)
When : 4 Apr 2005 – 18 Apr 2005
Overall Expense : BHT 33,000++ (only for 9 days spending in Germany without flight fares)
Where to go? Germany

 

(Photo by Ping Sahatat)

Day 1 – Frankfurt – Cologne ลงมาอย่างกับกะเหรี่ยงทั้งซื้อรถไฟไม่เป็น ขึ้นรถไฟไม่เป็น เข้าห้องน้ำไม่เป็น ฝากกระเป๋าก็ไม่เป็น ขำดี เมืองแปลกเราก็ทำอะไรไม่ถูกกันหมด อะไรก็เห่อ หัวลำโพงเมืองนอกก็ถ่ายอยู่นั่นแหละ เดินไปหากาแฟกินที่จตุรัสเมืองแล้วเดินเล่นเมืองธุรกิจ จากนั้นไปโคโลญจน์หาที่ฝากกระเป๋า เจอเจ้าวอยเต๊กเพื่อนชาวโปแลนด์ของแจ๊ค พากันไปหาอิมบิส (imbiss) กินไส้กรอก (WÜrst) กันที่เหลือก็แยกยายกันไปชอบปิ้ง ดูโบสถ์เสียดฟ้า หาเบียร์ท้องถิ่น (Kirche Beer) กิน อิ่มหนำสำราญเมืองเยอรมัน 
สรุปว่าไปดู RÖmerburg, Lapera Cafe’, Rhine River, KÖlner Dom
Day 2 – Dresden – Rathen นอนตู้นอนกันมาถึงเมืองเดรสเดน เข้าที่พักได้อาบน้ำกันเสียที ก่อนออกไปท่องพระราชวัง กำแพงภาพที่ยาวสุดในโลก และระเบียงแม่น้ำที่ขึ้นชื่อของยุโรป เนื่องจากหลากหลายปัจจัยจึงไม่ได้เข้า museum เดินเล่นไปเรื่อยๆ เมืองเขาสวยสไตล์บาร๊อคผสมกับโกธิคสวยดีแฮะ พอเวลามีก็เลยไปเมืองเล็กๆชื่ราเธนเป็นเมืองน่ารักแบบชนบทแท้ๆ เพราะต้องข้ามเรือข้ามไปอย่างเดียวเท่านั้น ดูบ้านสไตล์เยอรมันเหนือ คนที่นี่พูดอังกฤษไม่ได้เลยแล้วของถูกโคตร ปีนเขาเพื่อไปหาสะพานหินโบราณแบบ lord of the ring ผ่านป่าแบบยุโรปและวิวมุมสูงเห็นเมืองเล็กๆ ที่ national park เสียดายไม่ได้ดูทิวเขาที่แปลกตา แต่แค่นี้ก็คุ้มเหนื่อย เหนื่อยมาทั้งวัย เพื่อนๆ surprise วันเกิดด้วยเค้กที่ซื้อจากราเธนสามสิบบาท ปลื้มที่สุด เป็นครั้งแรกทีได้เค้กวันเกิด 
สรุปว่าไปดู BrÜhlsce Terrace, Kasamatten, Zwinger, KingJohann’s Statue, Semperoper, Langer Gang, Hofkirche BasteibrÜcke
Day 3 – Berlin ตื่นแต่เช้าเคลื่อนพลอีกครั้ง เคลื่อนผลเก็บประเป๋าไปทาง Berlin ช่วงนี้หนักหน่อยเคลื่อนย้ายกันเป็นว่าเล่น เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันสำหรับการเป็นมือใหม่ทั้งแปดคน ตื่นเช้ากันทุกวัน แต่ก็เริ่มชิน นั่ง tram เป็นแล้ว มาเมืองหลวงก็ดูให้เต็มคราบ เข้าพิพิธภัณฑ์มาดูซากหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคเก่า เดินกันน่องโป่ง ใครชอบเมืองหลวงก็ช่างมันก็โอเค โดยเฉพาะตรง graffitti ได้กลิ่นความดิบเถื่อนสมัยยังเป็นสงครามเย็น เบียร์ที่นี่รสชาติแย่ที่สุด แต่ไส้กรอกข้างๆสถานีอร่อยสุดเท่าที่เคยกินมา Thuringen Rockbadwurst ถึงแม้ขนมปังจะรสชาติเหมือนของห้นกพิราบ นั่งกินอิมบิสอาหารจีน เจ้าของก็น่ารักมาก แล้วนั่งตู้นอนไปต่ออีกฟากตรงข้ามของประเทศเลย 
สรุปว่าไปดู TV Tower, Marienkirche, Berlin Dom, New Museum, Pergamon Museum, Reichstag, Brandenburg Gate, Potsdamer Platz, Eas-Side-Gallery
Day 4 – Freiburg ถึง Freiburg ติดสวิสตอนเช้า เป็นเมืองที่น่ารักแบบตอนใต้ ชอบมากๆๆๆๆ วันนี้เพื่อนๆเหนื่อยกันมาก เพื่อนแจ๊คเลยขออาสามาคุยว่าไม่ไปไหนต่อแล้วก็เลยขี่จักรยานเลียบแม่น้ำและขุนเขาไปเรื่อยๆทั้งแปดคน ผ่านทุ่งทิวลิป แวะ บ้านโบราณ หาซื้อกับข้าวเข้าครัวทำกินเอง สรุปว่าแพงกว่าไปนั่งกิน แต่ได้อานิสงส์ซัดเบียร์ที่เลือกมาเองกับมือไปเองเกือบหมด ชอบ Hostel ที่นี่ น่ารักมีโต๊ะปิงปองให้เล่นด้วย 
สรุปว่าไปดู MÜunster
Day 5 – Lindau – Munich เดินทางทั้งวันเพื่อมาให้เจอ กุ้ง สาวที่เริ่มติดตามมาเที่ยวด้วยที่มิวนิคให้ได้ วันนี้เปลี่ยนรถไฟกันวุ่น จนฝรั่งถามว่าเอาก้อนหินมาเที่ยวกันเหรอ เหนื่อยกับการยกขึ้นลงบริการสาวๆ แวะที่เมืองลินเดา เมืองประภาคารของทะเลสาปเลคคอนสแตนส์ (ใหญ่สุดในยุโรป) เป็นเมืองที่ยื่นออกมาจากฝั่ง ก็น่ารัก เมืองเล็กๆแต่มีที่ชอปปิ้งมากมาย ไปถึงมิวนิคก็พาเพื่อนๆทั้งหมด 9 ชีวิต ไปเดินเล่น แทงสนุ้ก 
สรุปว่าไปดู รอบๆ Lindau
Day 6 – Garmsich ตื่นเช้าลากเพื่อนๆขึ้นรถไฟใต้ดินไปดูสนามแข่งของบาเยิรน์สงสารเพื่อนนนท์ที่พยายามเสียตังค์ตามเราเข้ามาดูสนาม สรุปเสียเงินฟรี แต่ก็อยากให้ทำใจว่าเราใช้เวลากระชับตลอด การรอกันไปๆมาๆ หลายคนก๋เลยเริ่มเกิดปัญหา ทำให้เราต้องวิ่งกันซะเยอะ วันนี้ได้เพื่อนเพิ่มมาอีกสามคนจากกรุงเทพ เจอกันครั้งแรกก็บังคับให้วิ่งหน้าตั้งขึ้นรถไฟเลยเพระรถไฟจะออกไปการ์มิซ มาถึงก็เหนื่อยแฮ่ก สุดท้ายก็ได้ขึ้นภูเขาที่สูงที่สุดในเยอรมันสมในอยาก ถึงแม้จะมีเวลาไม่มากก็ตาม แทบจะวิ่งแข่งกับเวลาทั้งวัน (เราเป็นคนบริการเพื่อนจึงต้องทำเวลาและวิ่งมากกว่าคนอื่นมากนัก ได้เจอหิมะเป็นครั้งแรกในชีวิตบนรถไฟ หล่นลงมาเป็นละออง ตื่นเต้นเหมือนเด็กๆเลย เล่นคลุกหิมะบนเขาตนเปียกไปหมด สะใจจนเกือบป่วย ขึ้นกระเช้าไปบนยอด ไหงให้อยู่แปบเดียวว่าจะมาปักธงเสียหน่อย ตลกตัวเองดี อยากเล่นสกีเหมือนกัน แต่วันนี้บนยอดอากศปิด ขาวโพลนจนแทบมองอะไรไม่เห็นเลย ลงรถรางมาถึงทะเลสาบอิบเซ่ ก็ดูต้นสนกับหิมะ เป็นภาพที่โรแมนติกติดตาภาพหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว วันนี้เรายังไม่จบ ยาวนานยิ่งนัก พาเพื่อนไปโรงเบียร์ของแท้ของเยอรมัน ไม่ใช่ด้านนักท่องเที่ยว แต่เป็นด้านคนท้องถิ่น เปิดเข้าไปก็ได้บรรยากาศบาวาเรีย มีดนตรีเครื่องเป่าเล่น และเสียงจอแจในฮอลล์ใหญ่ วันนี้เผอิญ 1860 Munich เตะกับ bayern Munich พอดี จึงเป็นดาร์บี้แมทซ์ พอดนตรีเพลงเชียร์ขึ้น คนก็โห่ร้องรำไปทั้งฮอลล์ เป็นบรรยากาศที่ขนลุกเป็นที่สุด สุดยอดดด เบียร์แก้วยักษ์ ซดเข้าไป ดื่มเข้าไป 
สรุปว่าไปดู Olympia Park, Olympic Stadium(empty), BMW Musueum, Zugspitze, Eibsee, Hofbrauhaus
Day 7 – Salzburg (Austria) ตั้งหลักที่มิวนิคแล้วไป daily tour เมืองอื่นใกล้ๆ ในย่านบาวาเรียมาเยอะ วันนี้ตั๋วรถไฟบาเยิรน์ของเราสามารถมาถึงเมืองซารล์สบวร์กของออสเตรียได้ เลยมาที่เมืองบ้านกิดของหนัง The Sound Of Music แะบ้านเกิดของโมสาร์ท โชคดีจริงๆที่ร้านรวงวันนี้ปิด จึงได้มีเวลาเดินดูที่เที่ยวมากกว่าชอบปิ้ง (บางคนอาจผิดหวัง) ก็นั่งรออยู่ ชวาลอฟกี้อยู่นานก็เบื่อจะแย่แล้ว เนื่องจากวันนี้เหนื่อยมากจึงบอกเพื่อนขอหลบไปนั่งกินกาแฟในตรอกเล็กๆข้างๆบ้านโมสาร์ทคนเดียว ฆ่าเวลา ซึ่งก็สื่สารผิดพลาด นั่งเพลินจนเพื่อนหาไม่เจอ ขอโทษจริงๆ แต่ ครึ่งชั่วโมงที่หายไปเรียกพลังกลับคืนมาได้เยอะ นั่งกินเค้ก ดูคนจูงหมามาเดินเล่นและคนขายดอกไม้ในตรอกเล็กๆมีความสุขมาก ขึ้นไปบนยอดปราสาทได้เห็นภูเขาปกคลุมด้วยหิมะ เหมือนได้เข้าใกล้บาวาเรีบแอลป์ยังไงก็ไม่รู้ กลับมาบาเยิรน์เพื่อต้องเจอกับเพื่อนอีกฝูงใหญ่ที่กระจัดกระจายกันมาเที่ยวและนัดเจอกันในวันนี้ อ้อ ที่มิวนิคไส้กรอกปลาขึ้นชื่อและเบียร์ Wissen ริมทางอร่อยมาก หอมแบบของแท้ๆ และราคาไม่แพง 
สรุปว่าไปดู Mirabellplatz, StaatbrÜke, Mozart’s Birthplace, St.Blaise’s Church, Horse Pond, Cathedral, Residenzplatz, Hohensalzburg Fortress
Day 8 – Fussen วันนี้เรามาไฮไลต์เพื่อดูต้นแบบปราสาทของดิสนีย์แลนด์ ที่เมืองฟุซเซ่น นับกันไปมาได้ นับกันได้สิบแปดคน โคตรเยอะเลย ดูแลไม่ไหว เหมือนทัวร์จีน เหนือ่ยกว่าเดิมสรุปวันนี้มีคนหลงจนได้คือมิ้งนี่เอง เฮ้อ วันนี้ได้กินขาหมูเยอรมันสมใจอยาก แต่ที่ตะวันแดงอร่อยกว่า 
สรุปว่าไปดู Schloss Hohenschwangau, Scloss Neuschwanstein
Day 9 – Prien A Chiemsee วันสุดท้ายในเยอรมัน เรามาทริปปราสาทแดกกันต่อ ก็คือปราสาทเฮเนรคิมเซ่ ที่เลียนแบบมาจากพระราชวังแวร์ซาย หน้าโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด วันนี้(เหมือนทุกๆวันหลังๆ) ก็ฌกิดปัญหาตกรถตกเรือกันไปเรื่อย ทำให้ต้องวิ่งหน้าตั้งอุ้มหญิงกลางเพื่อไปท่าเรือให้ทัน (กรูจะตายแล้วโว้ย) ทำให้เริ่มรู้จิตใจกันหมด เมื่อผ่านช่วงความกดดันเรื่องเวลามาเที่ยวด้วยกันถึงวันที่เก้า เรารู้นิสัยใจคอของกันและกัน กลับมาเดินเล่นๆรอบๆมิวนิค และลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนลีค สรุปแล้วได้ในราคาโคตรถูก และเป็นที่มาของการโดนประนามในเรื่องขายเประเทศกับคำพูดที่ว่า “I come from poor country” ไมม่รู้จักโคตรกลยุทธ์ซะแล้วเพื่อนๆ ขากลับเจอน้ำลายและกลิ่นเบียร์ของพวกฝรั่งสูงสองเมตรบนรถไฟใต้ดินที่แน่นเป็นปลากระป๋อง 
สรุปว่าไปดู Schloss Herrenchiemsee, Frauenkirche, Neues Rathaus, Olympic Stadium (Bayen – Chelsea : Champion League)
Czech 

Day 10 – Prague มาถึงวันที่ต้องมาเจอเพื่อนๆทั้งหมด และเข้า business trip เสียที นอนไป 1 ชม ข้ามจากมิวนิคมาปราก โอว คนเยอะอย่างกับหนอน ได้เจอเพื่อนๆทั้งหมด ดีใจมาก บางคนแบ่งปันยารักษาโรคให้ ปรากเป็นเมืองที่สวยงามมากหลังคาสีกุหลาบทั่วทั้งเมือง มีจตุรัสที่คึกคัก เข้าชมแกลอรี่ แต่รู้สึกอึดอัดอย่างไรไม่รู้ เมื่อตัวเองไม่ได้กำหนดเส้นทางท่องเที่ยวอีกต่อไป ชาร์ลสบริดจ์ตอนกลางคืน เป็นเส้นทางเดินของคู่รักที่โรแมนติกที่สุดในโลกเลย เหงาชะมัด….อยากมีคนกุมมือเดิน เริ่มป่วยหนักแล้วครับ 
สรุปว่าไปดู Prague Castle, Golden Lane, Charles Bridge, Tyn’s Church, Orloj, Straroměstskénám, National Museum, St. Nicolas Church, Powder Tower, Celetná Street
Day 11 – [Company Visit] เยี่ยมชมครับ ดูโรงงานไวน์และซูปเปอร์มาร์เก็ต เสียเวลาเที่ยวดีแท้ ตอนดึกกลับมา Jazz Pub ฟังเพลง Jazz ที่ปราก 
สรุปว่าไปดู Bohemia Sekt Company, Delvita Company
Day 12 – Karlovy Vary นั่งรถมาดูเมืองน้ำพุร้อน เมืองยุโรปที่ตั้งตามไหล่เขา แวะดูบริษัทสปานิดหน่อย ชอบจริงๆเดินเล่นที่ปรากตอนกลางคืนเนี่ย 
สรุปว่าไปดู รอบๆ Karlovy Vary
Austria 

Day 13 – Vienna กลายมาเป็นทัวริรสต์ขนานแท้แล้ว อึดอัดและทรมาณมากกับการลงรถนั่งและไม่ได้ทำอะไรนอกจากถ่ายรูปหรือแวะเยี่ยว ชะโงกทัวร์นั่นเอง เกลียดมาก เหมือนมาไม่ถึงเวียนนนา อยากทำอะไรเอง ทำไมต้องเสียตังค์เหมือนมาอยู่บนคุกเคลื่อนที่ได้เนี่ย เฮ้อ อดดูโอเปร่าที่เมืองแห่งเวียงดนตรีอีกต่างหาก 
สรุปว่าไปดู Belvedere, Hofburg, Volksgarten, Kärtner Straße, Stephansdom, Thai Kitchen Restuarant
Day 14 – Melk , Danube Crusing, DÜrnstein ตามเขาไปเรื่อยแล้วอยู่ตรงไหนของประเทศก็ไม่รู้ เขาพาไปไหนก็ไป เหมือนมาทัศนศึกษาเลย รู้แต่ล่องเรือแม่น้ำดานูบ เพื่อนๆทั้งแปดคนตอนแรกเลี้ยงเบียร์ผมขอบคุณที่พาเพที่ยวมาทั้งหมด เป็นปลื้ม (และเมา) ทริปจะจบลงแดงและเฮี้ยน กินซี่โครงหมูอันลือลั่นที่ strandafe ไปสามริปครึ่ง ตบด้วยไปติมเจลาโตอีก อร่อยๆ 
สรุปว่าไปดู Melk Abbey, Danube River, Dürnstein, Strand Cafe, Staatsoper
Day 15 – [Company Visit] อำลาด้วยการเยี่ยมโรงงานท่อและโรงงานอิฐ ขึ้นเครื่อง อำลาแล้วยุโรป ไว้วันหลังจะกลับมาอีก 
สรุปว่าไปดู Pipelife Company, Weinerberger Company

สถานที่ที่ยังไม่ได้ไป :
ใกล้ๆกับเบอร์ลินยังมีเมืองที่ชื่อ Potsdamer ซึ่งก็มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เมืองโรแมนติกสีพาสเทล Rothenburg Ob de Tour อันลือลั่นเรื่องความโคซี่ ซึ่งที่นี่ยังไงต้องมาสักครั้งหนึ่งในชีวิตให้ได้ Heidelburg เมืองแห่งหมาวิทยาลัยและสถาปัตยกรรมโบราณเหมือนในแฮรี่พอตเตอร์ Hamburg เมืองท่าคนรวยแห่งเยอรมัน ซึ่งด้าานบนเหนือไปอีกก็มีเมืองชนบทเล็กๆติดเดนมาร์คบนทะเลหนือหรือคาบสมุทรบอลติค เส้นทางขับรถสาย Romantic Road ที่น่าขับไปบนออโตบาห์น
หากอยากเยี่ยมธรรมชาติ Black Forrest แถวๆ Freiburg จริงๆก็มีที่ได้ให้ได้ลองเดิน แต่ไม่ได้ไป กลุ่มเส้นทางสายเทพนิยาย อาทิเช่น Bremen, Hanao, Nürnburg, Gutenburg, Hameln ก็น่าไป แค่ได้ยินก็มิความรู้สึกหวิวๆเหงาๆแบบเยอรมันแท้ๆ ไว้งวดหน้าวันใดวันหนึ่งจะตัดมาเยี่ยมให้ได้โดยเฉพาะ Rothenburg อ้อ เทศกาลกินเบียร์ Munich’s Oktoberfest ก็น่าสนใจถ้าอยากมาดูความบ้าและขี้เมาของดินแดนเยอรมัน

ส่วนทางเชคก็พลาดเมือง Český Krumlov ไปอย่างน่าเสียดาย เขาบอกว่าโคตรโรแมนติดและน่ารักกว่าปรากอีก อยากไปให้ได้มากๆ เสียใจจัง
ทางออสเตรีย ก็มีเมืองที่น่าเยี่ยมชมอีกเช่น Innsburg ส่วน Linz ก็ดูน่าสนใจ ภูเขาหิมะ แถบออสเตรียหรือเมืองธรรมชาติ ที่ไม่รู้ชื่อ จริงๆก็ควรจะน่าไปลองดู ส่วน เสียนนา ก็เหมือนว่าควรจะกลับไปใหม่เพราะมีที่ไหน ให้แวะถ่ายรูปเฉพาะหน้าปราสาท แล้วบอกไม่มีเวลาให้เข้าไปดูข้างใน ถ่ายก็แปบเดียวเหมือนแวะเยี่ยว สุดท้ายพาไปชอบปิ้งร้านในเครือของทัวร์ ทุเรศจริงๆกับการเที่ยวแบบทัวร์ ไม่สามารถเที่ยวแบบนี้ได้อีกต่อไป

ขอบคุรที่ติดตามอ่านเรื่องราวของทริปนี้ เจอกันใหม่โอกาสหน้า ผืนแผ่นดินใดแผ่นดินหนึ่งใน… ยุโรป

Leave a comment